เมนูนำทาง
วิชัย ราชานนท์ ชกมวยสากลสมัครเล่นวิชัยเคยชกมวยสากลสมัครเล่นมาบ้างแล้วที่ขอนแก่น ได้มีโอกาสชกมวยสากลสมัครเล่นอีกเมื่อสโมสรโอสถสภาขาดนักมวยในรุ่นพินเวท ร.ท.ไฉน ผ่องสุภา หัวหน้าค่ายมวยศศิประภายิม ซึ่งทำมวยสากลสมัครเล่นให้กับสโมสรโอสถสภาด้วย ได้ให้วิชัยเข้าชกรายการมวยของกรุงเทพวิชัยแสดงผลงานได้อย่างดี คว้าเหรียญทองได้อย่างเหนือความคาดหมายเมื่อชนะ เมฆินทร์ สุมน แชมป์ประเทศไทยคนก่อนได้ ต่อมาวิชัยย้ายไปอยู่สโมสรทหารอากาศขึ้นชกมวยสากลสมัครเล่นในรายการต่าง ๆ เคยเข้าแข่งขันคัดเลือกเป็นตัวแทนเขต 4 และสามารถเอาชนะคะแนน ไรแมน บุญถม (ซึ่งต่อมาได้เป็นนักมวยเหรียญทองเอเชียนเกมส์ของไทย ในรุ่นเฟเธอร์เวท) ได้สำเร็จ เข้าแข่งขันกีฬาแห่งชาติ แต่ได้เพียงแค่เหรียญทองแแดงเมื่อไปแพ้ต่อ ลูกเขียด เมืองสุรินทร์ ในรอบชิงชนะเลิศ
วิชัยติดทีมชาติเป็นครั้งแรกใน พ.ศ. 2530 ขึ้นชกมวยสากลสมัครเล่นคิงส์คัพ แล้วคว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ จึงได้ติดทีมชาติเป็นครั้งแรก ซึ่งผลงานในระดับทีมชาติของวิชัยผ่านศึกมาอย่างโชกโชน เคยชกที่เอเชียนเกมส์สองครั้งที่ปักกิ่ง ประเทศจีน ในปี พ.ศ. 2533 และฮิโรชิมา ที่ญี่ปุ่น ในปี พ.ศ. 2537 โดยทั้งสองครั้งวิชัยได้เพียงแค่เหรียญทองแดง ในปี พ.ศ. 2534 วิชัยเข้าแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งแรกที่ฟิลิปปินส์ได้เหรียญทอง ซีเกมส์ พ.ศ. 2536 ที่สิงคโปร์ได้เหรียญเงิน และมาได้เหรียญทองอีกครั้งใน ซีเกมส์ พ.ศ. 2538 ที่เชียงใหม่
การชกในระดับกีฬาโอลิมปิกของวิชัยเริ่มต้นไม่ประสบความสำเร็จ โดยครั้งแรกที่มีโอกาสเข้าร่วมคือโอลิมปิกที่โซล ประเทศเกาหลีใต้ ในปี พ.ศ. 2531 ในรุ่นฟลายเวท รอบแรก แพ้ แอนดี อกอสโซ จากเปอร์โตริโก ตกรอบ เมื่อ 18 กันยายน ครั้งต่อมาที่บาร์เซโลนา ประเทศสเปน ในปี พ.ศ. 2535 ในรุ่นฟลายเวท รอบแรกแพ้ มาริโอ ลอช จากเยอรมนี เมื่อ 27 กรกฎาคม[3] ซึ่งวิชัยโชคร้ายศีรษะแตก ถูกจับแพ้ไปทั้ง ๆ ที่ ทำคะแนนเหนือกว่า
ความผิดหวังในกีฬาโอลิมปิกตามมาด้วยการได้แค่เหรียญเงินในกีฬาซีเกมส์ ทำให้วิชัยเริ่มท้อ คิดจะเลิกชกมวยสมัครเล่น ในช่วงนั้นมีข่าวจะวิชัยจะหันมาชกมวยสากลอาชีพแต่ในที่สุดก็ได้ตัดสินใจชกในแบบมวยสมัครเล่นต่อไป เพราะใจยังรักการเป็นทหาร และในช่วงนี้เองที่วิชัยเปลี่ยนมาใช้นามสกุล "ราชานนท์" ของแม่ แทนนามสกุล "ขัดโพธิ์" ของพ่อ
ในโอลิมปิก ครั้งที่ 26 ที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2539 วิชัยได้เลื่อนขึ้นไปชกในรุ่นแบนตั้มเวท โดยผ่านรอบคัดเลือกได้ในการแข่งขันเลกสามที่ไทยเป็นเจ้าภาพ เส้นทางการชกในโอลิมปิกของ วิชัยคือ ขึ้นชกในรุ่นแบนตั้มเวท ประเดิมรอบแรก ชนะคะแนนเคบลาเด้ แลมเบิร์ต จากแคนาดา 12-2 , รอบสอง ชนะคะแนน บาเร็ต คาร์ลอส จากเวเนซุเอาลา 14-6, รอบก่อนรองชนะเลิศที่เป็นรอบชิงเหรียญทองแดงชนะคะแนน ไฮแคม นาฟิล จากโมร็อคโก 13-4 แต่ว่าในรอบรองชนะเลิศวิชัยแพ้คะแนน อิสต์วาน โควากซ์ จากฮังการี 7-12 ได้ครองเหรียญทองแดง (ซึ่งต่อมา อิสต์วาน โควากซ์ ได้ครองเหรียญทอง) ซึ่งการชกโอลิมปิกในครั้งนี้ ทางฝ่ายจัดการแข่งขัน ได้ขึ้นชื่อวิชัยว่า Vichairachanon Khadpo (วิชัยราชานนท์ ขัดโพธิ์) การคว้าเหรียญทองแดงครั้งนี้ของวิชัย ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่วงการกีฬาของไทย โดยเป็นครั้งแรกที่นักกีฬาไทยสามารถครองเหรียญโอลิมปิกพร้อมกันถึง 2 คน (อีกคนหนึ่ง คือ สมรักษ์ คำสิงห์ ซึ่งเป็นนักกีฬารายแรกที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิก) และทำให้วิชัยได้ติดยศ เรืออากาศตรี (ร.ต.) ตามที่ใฝ่ฝัน
เมนูนำทาง
วิชัย ราชานนท์ ชกมวยสากลสมัครเล่นใกล้เคียง
วิชัย สังข์ประไพ วิชัย ศรีวัฒนประภา วิชัย จงประสิทธิ์พร วิชัย บุญแสง วิชัย ริ้วตระกูล วิชัย แชจอหอ วิชัย ราชานนท์ วิชัย ล้ำสุทธิ วิชัย สุริยุทธ วิชัย วงศ์ไชยแหล่งที่มา
WikiPedia: วิชัย ราชานนท์ http://www.sports-reference.com/olympics/athletes/... https://www.facebook.com/vichai.rachanon